Flaxseed

🔺เมล็ดแฟลกซ์🔺
เมล็ดแฟลกซ์ (Flaxseed) หรือเมล็ดจากต้นลินิน (Linseed)
เป็นเมล็ดพืชที่ถูกนำมาใช้ตั้งแต่สมัยโบราณ
โดยมีการค้นพบว่าเจ้าเมล็ดพืชชนิดนี้ มีมาตั้งแต่สมัยกรุงบาบิโลนเมื่อ
3,000 ปีก่อนคริสตกาล และในศตวรรษที่ 8
ก็มีความเชื่อว่าเมล็ดแฟลกซ์นั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพ
จึงเป็นที่นิยมปลูกเพื่อนำมาบริโภคอย่างแพร่หลาย
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Linum usitatissimum L.

1. ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล
2. ป้องกันการเกิดโรคหัวใจ
3. ป้องกันโรคมะเร็ง
4. ป้องกันโรควัยทอง
5. อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
6. ช่วยระบบขับถ่าย
7. บำรุงเล็บและเส้นผม
8. ป้องกันภาวะมีบุตรยาก และมะเร็งต่อมลูกหมาก
9. รักษาภาวะซึมเศร้า
10. บำรุงตับ
🔼ข้อควรระวัง🔼
1.
หญิงตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานเมล็ดแฟลกซ์โดยเด็ดขาด เนื่องจากในเมล็ดแฟลกซ์
มีสารลิกแนน (Lignans) ซึ่งเป็นสารไฟโตเอสโตรเจน (Phytoestrogen)
ที่ออกฤทธิ์เช่นเดียวกับฮอร์โมนเอสโตรเจน
ถึงแม้ว่าจะไม่มีหลักฐานยืนยันว่าอาจจะเป็นอันตราย
แต่หากในร่างกายมีฮอร์โมนกลุ่มเอสโตรเจนมากเกินไปก็อาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์บางอย่างได้
ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์เพื่อความมั่นใจก่อนที่รับประทานเมล็ดแฟลกซ์
2. ผู้ป่วยที่มีภาวะเลือดออกมาผิดปกติ
การรับประทานเมล็ดแฟลกซ์จะเข้าไปทำให้เลือดแข็งตัวช้าลง
ดังนั้นหากมีปัญหาสุขภาพดังกล่าว ห้ามใช้เด็ดขาด
3.
แม้ว่าจะมีบางการศึกษาพบว่าการรับประทานเมล็ดแฟลกซ์ช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงได้
แต่ถ้าหากใช้ควบคู่กับการรับประทานยารักษาโรคเบาหวานก็อาจจะทำให้น้ำตาลในเลือดลดลงมากเกินไปจนอยู่ในระดับที่อันตราย
ดังนั้นหากจะใช้ควรสังเกตระดับน้ำตาลในเลือดเมื่อรับประทาน
4.
ในกลุ่มผู้ป่วยที่มีภาวะลำไส้อุดตันหรือมีหลอดอาหารแคบ
และมีภาวะการอักเสบในลำไส้ใหญ่ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานเมล็ดแฟลกซ์
เพราะปริมาณไฟเบอร์ที่สูงมากเกินไปอาจจะทำให้อาการหนักขึ้น
5. ผู้ป่วยที่มีระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง
ควรหลีกเลี่ยงการใช้เมล็ดแฟลกซ์
เพราะแม้ว่าจะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้
แต่สารบางชนิดในเมล็ดแฟลกซ์อาจส่งผลให้ระดับไตรกลีเซอไรด์เพิ่มขึ้นได้
6. เมล็ดแฟลกซ์สามารถช่วยลดระดับความดันโลหิตที่สูงได้
แต่สำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำ
การรับประทานเมล็ดแฟลกซ์จะยิ่งทำให้ความดันโลหิตต่ำยิ่งกว่าเดิม
และอาจทำให้เป็นอันตรายได้
🔼วิธีเก็บรักษา🔼
ควรเก็บให้แห้งปิดให้มิดชิด
ระวังไม่ให้เปียกชื้น ในอุณหภูมิปกติ
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://health.kapook.com/view130423.html
http://issue247.com/health/eat-flaxseed-every-day/
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น