Chia Seed
เจีย เป็นพืชในตระกูลเดียวกันกับต้นกะเพรา หรือมิ้นต์ มีขนาดของลำต้นสูงประมาณ 4-6 ฟุต เจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศที่หนาวเย็น มีเมล็ดเรียวยาวสีน้ำตาลอมเทาคล้ายเม็ดแมงลักมาก แต่เม็ดแมงลักจะมีสีดำเข้มและขนาดเล็กกว่า หากนำมาแช่น้ำเมล็ดเจียจะพองตัวเป็นเมือกใสๆ ส่วนเม็ดแมงลักจะเป็นเมือกสีขาวขุ่น เจียจะเจริญเติบโตได้ดีในดินเหนียวปนทรายที่มีความอุดมสมบูรณ์ สามารถระบายน้ำได้ดี หรือในพื้นที่ที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 800-2,200 เมตร ไม่ชอบน้ำท่วมขัง ทนทานต่อสภาพแห้งแล้งได้ดี ในดินที่เป็นกรดและแห้งจะเจริญได้ปานกลาง ฤดูที่เหมาะสมในการเพาะปลูกควรอยู่ในช่วงฤดูแล้งประมาณเดือนพฤษภาคม หากปลูกในช่วงฤดูฝนอาจทำให้เมล็ดพองตัวจนเกิดความเสียหายได้ หลังจากปลูกไปประมาณ 4 เดือน สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตในช่วงเดือนกันยายน

🔺เมล็ดเจีย🔺
เมล็ดเจีย (Chia Seeds) เป็นเมล็ดธัญพืชชนิดหนึ่งที่มีขนาดเล็กคล้ายเม็ดแมงลัก ลักษณะเป็นรูปไข่ มีสีหลากหลาย เช่น สีขาว สีดำ บางครั้งมีลายเป็นจุดสีน้ำตาล น้ำตาลเข้ม สีครีม ดำ และขาว สามารถรับประทานได้โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการแปรรูป และด้วยรสชาติอ่อน ๆ คล้ายถั่ว เข้ากับอาหารและเครื่องดื่มต่าง ๆ ง่าย จึงนิยมนำมาโรยบนเมนูต่าง ๆ อย่างแพร่หลาย
ชื่อสามัญ : Chia Seeds
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Salvia Hispanica L.
ชื่อวงศ์ : Lamiaceae
ชื่ออื่นๆ : เชีย, ชีอา, ชิอา
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Salvia Hispanica L.
ชื่อวงศ์ : Lamiaceae
ชื่ออื่นๆ : เชีย, ชีอา, ชิอา
🔼ลักษณะของเมล็ดเจีย🔼

🔼ประโยชน์เมล็ดเจีย🔼
- บำรุงหัวใจ
- บำรุงสมองเสริมความจำ
- ป้องกันเบาหวาน
- บำรุงการนอนหลับ
- ซ่อมแซมเซลล์และชะลอวัย
- ป้องกันโรคกระดูกพรุน บำรุงกระดูกและฟัน
- บำรุงระบบย่อยและดูดซึมอาหาร ป้องกันอาการท้องผูก
- ป้องกันการติดเชื้อ และช่วยให้แผลหายไวขึ้น
- เติมเต็มสารอาหารพื้นฐานหลายชนิด เป็นแหล่งพลังงาน
- บำรุงสุขภาพจิตช่วยให้อารมณ์ดี
- ป้องกันผิวแห้ง
- ลดรอยเหี่ยวย่นรอยตีนกา ชะลอวัยให้กับเซลล์ผิว
- ลดปัญหาสิว
- บำรุงเส้นผม
- ช่วยให้อิ่มเร็ว
- แคลอรี่น้อย แต่อุดมไปด้วยสารอาหารพื้นฐานที่จำเป็นต่อร่างกาย
🔼ข้อควรระวัง🔼
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบกระเพาะอาหารและลำไส้ เช่น มีแก๊สในกระเพาะอาหาร แสบร้อนกลางอก รวมถึงกรดไหลย้อน จะมีผลกระทบได้ เพราะเส้นใยไฟเบอร์ที่ขยายตัวในกระเพาะอาหาร จะกระตุ้นให้ตับอ่อนเร่งสร้างน้ำย่อยออกมานั่นเอง
- ผู้ที่ต้องเข้ารับการศัลยกรรม หรือมีประวัติการใช้ยาแอสไพริน ยังไม่ควรทานเมล็ดเจีย เพราะอาจเกิดภาวะที่เลือดแข็งตัวช้ากว่าปกติ
- ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตต่ำ เพราะมีผลต่อแรงดันเลือดขณะที่หัวใจคลายตัวต่ำลง (Diastolic blood pressure)
- หญิงตั้งครรภ์ หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตรไม่ควรบริโภคเมล็ดเจีย เพราะมีผลต่อสารอาหารในน้ำนม
- การรับประทานเมล็ดเจียร่วมกับอาหารเสริมวิตามินบี 17 ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานมากๆ จะทำให้ร่างกายสะสมสารไฟโตนิวเทรียนท์ในปริมาณมากเกินกว่าความต้องการของร่างกาย
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.pobpad.com/%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%A2-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD
https://sistacafe.com/summaries/747-%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%9C%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%AD
http://www.vichakaset.com/%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%A2/
http://www.theseedsthai.com/%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%A2-22969.page
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น