ข้าวบาร์เลย์ (Barley)

Barley

Image result for ข้าวบาร์เลย์ (Barley)

ข้าวบาร์เลย์ (Barley) ข้าวบาร์เลย์ที่ปลูกในปัจจุบัน (H. vulgare) ถูกพัฒนาสายพันธุ์หรือมีสายพันธุ์บรรพบุรุษมาจากข้าวบาร์เลย์พันธุ์ป่า (H. spontaneum C. Koch) โดยมีศูนย์กลางความหลากหลายทางพันธุกรรมอยู่ที่บริเวณ The Fertile Crescent ของตะวันออกประเทศอิสราเอล ตุรกี และอิหร่าน ซึ่งเป็นพันธุ์ชนิดสองแถวเท่านั้น ที่สามารถปลูก และเจริญเติบโตได้ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย จัดเป็นพันธุ์ข้าวเมืองหนาวที่นิยมปลูก และนำมาใช้ประโยชน์มากในแถบประเทศเมืองหนาว จัดเป็นธัญพืชสำคัญสำหรับใช้ทำขนมปัง ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และเบียร์ เป็นต้น


ชื่อวิทยาศาสตร์ : Hordeum spp.หรือ Hordeum yulgar Linn.
วงศ์ : Hordeae
ชื่อสามัญ : Barley
🔼ลักษณะทางพฤกษศาสตร์🔼
รากข้าวบาร์เลย์ ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
1. รากจากการงอกของเมล็ด (seminal root) คือ รากชุดแรกที่เกิดมาจากคัพภะหลังจากการงอกของเมล็ด ประกอบด้วยรากแขนงที่แตกออกเป็นกระจุกบริเวณโคนต้นใต้ดิน รากหยั่งลึกได้ประมาณ 20-30 เซนติเมตร เป็นรากที่อยู่ตลอดช่วงการเติบโต หรืออาจตายก่อนการเก็บเกี่ยว
2. รากจากข้อลำต้น (crown root) คือ รากชุดที่สองที่เกิดออกบริเวณข้อของลำต้นหลักหรือลำต้นแขนง บางรากที่อยู่ข้อบริเวณโคนต้นจะหยั่งแทงลงใต้ดินได้

ใบ
ใบข้าวบาร์เลย์ เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว แตกออกเป็นใบเดี่ยว เรียงตรงข้างกันบริเวณข้อ แต่ละลำต้นจะมีใบประมาณ 5-10 ใบ ใบข้าวบาร์เลย์ ประกอบด้วยกาบใบ (sheath) ที่เป็นส่วนห่อหุ้มลำต้น ถัดมาเป็นลิ้นใบ (ligule) เป็นส่วนที่โผล่ออกจากด้านล่างของกาบใบ มีลักษณะเป็นเยื่อบางๆขนาดเล็ก งอกจากข้อต่อขึ้นไปทางด้านบน ต่อมาเป็นหูใบ (auricle) เป็นส่วนที่เป็นง่าม 2 อัน อยู่บริเวณจุดต่อระหว่างกาบใบกับแผ่นใบ ถือเป็นส่วนที่ใช้แยกแยะชนิดพันธุ์ข้าวเมืองหนาว กล่าวคือ หูใบของข้าวบาร์เลย์จะยาวงุ้ม ไม่มีขนปกคลุม และมีขนาดใหญ่กว่าหูใบข้าวสาลี ส่วนหูใบของข้าวสาลีจะมีลักษณะแคบเล็ก และมีขนปกคลุม ส่วนข้าวโอ๊ตจะไม่มีหูใบ

🔼ประโยชน์ข้าวบาร์เลย์🔼
1. เมล็ดข้าวบาร์เลย์ใช้แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ข้าวเมล็ดกลม เล็กๆ เรียกว่า peal barley ที่นิยมนำมาหุงหรือต้มรับประทานแทนข้าวสวยได้ รวมถึงใช้เป็นส่วนผสมของขนมหวานหรือใช้ใส่ในน้ำเต้าหู้
2. ข้าวบาร์เลย์แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์แป้งสำหรับใช้ทำขนมปัง และเค้ก เป็นต้น
3. ข้าวบาร์เลย์ใช้เป็นวัตถุดิบในการทำข้าวมอลต์ (barley malt) ที่เป็นวัตถุดิบที่ใช้ในโรงงานผลิตเบียร์ และวิสกี้ โดยพบว่า ข้าวบาร์เลย์ชนิดหกแถวจะมีองค์ประกอบของเอนไซม์ และโปรตีนสูง แต่มีปริมาณแป้งน้อย และขนาดเปลือกหนา ซึ่งการมีปริมาณเอนไซม์สูงนี้จะช่วยเพิ่มการเปลี่ยนแปลงระหว่างกระบวนการ mashing ได้ดี ส่วนข้าวบาร์เลย์ชนิดสองแถว จะมีข้อดีที่ว่ามีองค์ประกอบโปรตีนที่ต่ำกว่า ทำให้ช่วยลดความขุ่น (haze) ของกระบวนการหมักเบียร์ได้ดีกว่า ทั้งนี้ ข้าวบาร์เลย์ 300 กิโลกรัม สามารถทำเป็นข้าวมอลต์ได้ประมาณ 225 กิโลกรัม และข้าวมอลต์ 225 กิโลกรัม จะผลิตเบียร์ได้ประมาณ 1800 ลิตร [2]
4. ข้าวบาร์เลย์ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเครื่องดื่มเสริมสุขภาพชนิดต่างๆ อาทิ โอวัลติน ขนมอบกรอบ และอาหารเช้า เป็นต้น
5. กากข้าวบาร์เลย์หรือข้าวมอลต์ใช้เป็นส่วนผสมในอาหารสัตว์สำหรับเป็นแหล่งเสริมโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต


🔼วิธีเก็บรักษ🔼
ควรเก็บให้แห้งปิดให้มิดชิด ระวังไม่ให้เปียกชื้น ในอุณหภูมิปกติ 

https://puechkaset.com/ข้าวบาร์เลย์/
https://www.ppseeds.com/product/930/ข้าวบาร์เลย์-barley-rice
https://www.pobpad.com/ข้าวบาร์เลย์-เมล็ดพันธุ












ความคิดเห็น